วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทุนจีนซื้อคอนโดฯยกตึก พระราม9-พัทยา/ตั้งฐานบุกอาเซียน

ไทยรับอานิสงส์จีนออกมาตรการสกัดฟองสบู่ในประเทศ ทุนจีนขนเงินไล่ช็อปคอนโดฯกลางกรุงเทพฯยันพัทยา "จีแลนด์" ส้มหล่นปิดดีลเหมาซื้อห้องชุดเบลล์พาร์ค 80 ห้อง เป็นตัวกลางดึงนักลงทุนจีนซื้อยกตึกอีก 140 ห้อง "ศุภาลัย-กฤษดานคร" เผยนายหน้าจีน-มาเลเซียทาบซื้อห้องชุดยกชั้น ชี้จีนแห่ลงทุนทั้งอุตสาหกรรม การค้า ท่องเที่ยว ใช้ไทยเป็นฐานบุกตลาดอาเซียน
กระแสกลุ่มทุนต่างชาติขยายฐานธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆการรวมตัวกันเป็นกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) สมบูรณ์แบบในปี 2558 ยิ่งใกล้เข้ามา ก็ยิ่งเห็นภาพความเคลื่อนไหวดังกล่าวชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีนที่รุกเข้ามาลงทุนหลากหลายสาขา อาทิ ทางด้านอุตสาหกรรม ธุรกิจการค้า ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งเพื่อเก็งกำไรและลงทุนในระยะยาว ขณะเดียวกันก็หวังใช้ไทยเป็นฐานในการขยายการลงทุนในกลุ่ม AEC ประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุนอสังหาฯ ล่าสุด กลุ่มทุนจีนบุกตลาดทั้งเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการ ลงทุนซื้อห้องชุดทั้ง 2-3 ห้อง และเหมาแบบยกลอต
ผู้สื่อข่าวสำรวจความเคลื่อนไหวชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองพบว่านับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมามีนักลงทุนชาวจีนซื้อคอนโดฯย่านรัชดาภิเษก ในลักษณะเจรจาซื้อบิ๊กลอตยกชั้นหรือซื้อยกอาคาร ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยสถานทูตจีนเหมาเบลล์พาร์ค
แหล่งข่าวจากบริษัทแกรนด์คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ "GLAND" ผู้พัฒนาโครงการ "แกรนด์ พระราม 9 สแควร์" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทเพิ่งปิดดีลขายคอนโดมิเนียม "เบลล์พาร์ค" (Belle Park) แบบบิ๊กลอตจำนวนกว่า 80 ยูนิต ให้กับสถานทูตสาธาณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยเบลล์พาร์คเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแกรนด์ พระราม 9 สแควร์ 
รายละเอียดดีลนี้ คอนโดฯเบลล์พาร์ค มีทั้งหมด 8 ทาวเวอร์ ยูนิตรวม 220 ยูนิต ทางสถานทูตจีนได้ขอซื้อคอนโดฯในทาวเวอร์ที่ 6 จำนวนกว่า 80 ยูนิต หรือประมาณ 30% เพื่อเป็นที่พักอาศัยแห่งใหม่ให้กับเจ้าหน้าที่ ส่วนห้องชุดที่เหลืออีก 140 ยูนิต สถานทูตทำข้อตกลงขอให้บริษัทหยุดพักการขายไว้โดยจะแนะนำชาวจีนที่สนใจมาซื้อ เพราะต้องการให้เป็นทาวเวอร์ที่มีแต่คนจีนพักอาศัย"เราเจรจากันมาระยะหนึ่งแล้วเหตุผลที่เขาสนใจเราเพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนรัชดาฯใกล้กับสถานทูตจีนและมีคนจีนพักในย่านนี้เยอะ คล้าย ๆ กับคนญี่ปุ่นที่นิยมอยู่ในซอยทองหล่อเพราะใกล้สถานทูตญี่ปุ่น ปัจจุบันเรามีสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติกว่า 10-20% ยังต่ำกว่าที่ พ.ร.บ.อาคารชุดที่กำหนดสัดส่วนไว้ไม่เกิน 49%" แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับคอนโดฯ เบลล์พาร์ค แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรกมี 4 ทาวเวอร์ ยูนิตรวม 1,000 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 90% กำลังทยอยโอนกรรมสิทธิ์ เฟสที่ 2 เป็นพื้นที่พลาซ่า 2 ชั้น และเฟส 3 เป็นคอนโดฯอีก 4 ทาวเวอร์ ประมาณ 1,000 ยูนิต จะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี แต่ละทาวเวอร์มียอดขายแล้ว 20-50% นอกจากนี้ภายในโครงการแกรนด์ พระราม 9 สแควร์ กำลังก่อสร้างอาคารให้เช่าพื้นที่ 2 โครงการ คือ 1.โครงการยูเพลส ออฟฟิศให้เช่าพื้นที่ 1.8 หมื่นตารางเมตร และพื้นที่ค้าปลีก 4,300 ตารางเมตร ปัจจุบันมีกลุ่มยูนิลีเวอร์ขอจองเช่าพื้นที่ออฟฟิศทั้งหมดเป็นเวลา 29 ปี ค่าเช่าเริ่มต้นตารางเมตรละ 640 บาท 2.โครงการเดอะไนน์ สำนักงานให้เช่าพื้นที่ 5.8 หมื่นตารางเมตร ค่าเช่าเริ่มต้นตารางเมตรละ 520 บาท ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้ว 50% ศุภาลัย-กฤษดาฯเนื้อหอม นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเคยได้รับการติดต่อจากนักลงทุนชาวจีนผ่านทางนายหน้าเพื่อขอซื้อห้องชุดในโครงการคอนโดฯแบบยกชั้น ประมาณ 10-20 ยูนิต ทราบว่าจะซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า คาดว่าเป็นเพราะช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเติบโตต่อเนื่องจึงสนใจเข้ามาลงทุนซื้ออสังหาฯในกรุงเทพฯที่ราคายังไม่สูง อย่างไรก็ตามการเจรจาไม่ได้ข้อยุติเนื่องจากเป็นการซื้อแบบยกชั้น ทางตัวแทนจีนขอต่อรองส่วนลดค่อนข้างสูง แหล่งข่าวจากบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการเดอะคริส รัชดาฯ และเดอะคริส เอ็กซ์ตร้า พระราม 9 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้รับการติดต่อจากนายหน้าของนักลงทุนมาเลเซียเชื้อสายจีน เพื่อขอซื้อห้องชุดโครงการเดอะคริส รัชดาฯ แบบยกชั้น เมื่อประมาณไม่เกิน 1 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถตกลงกันได้เนื่องจากขอต่อรองส่วนลดมากถึงเกือบ 20% ขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนชาวจีนและชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนที่ซื้อห้องชุดเฉลี่ยรายละ1-3ยูนิต เพื่อลงทุนปล่อยเช่าเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่กลางเมือง และอยู่แนวรถไฟฟ้าใต้ดิน

เผยอสังหาฯไทยน่าลงทุน
แหล่งข่าวจากบริษัทตัวแทนขายและที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งเปิดเผยเพิ่มเติมว่าปรากฏการณ์กลุ่มลูกค้าคนจีนที่มาซื้อคอนโดฯในกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยวมีอยู่ตลอดเวลา แต่น่าสังเกตว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2555 ที่ผ่านมา 
ทั้งนี้บริษัทได้รับการติดต่อจากคนจีนที่สนใจซื้อคอนโดฯในเมืองไทยส่วนใหญ่ระบุความต้องการซื้ออยู่ในทำเลรัชดาฯ-พระราม9 ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ รวมทั้งหัวเมืองท่องเที่ยวคือพัทยา แต่ละรายซื้อเฉลี่ย 1-4 ยูนิต มีทั้งซื้อเพื่ออยู่เองและซื้อลงทุนปล่อยเช่า "เท่าที่ทราบโครงการคอนโดฯ ทีซีกรีน ย่านพระราม 9 ซึ่งมีนักลงทุนจีนร่วมทุนพัฒนาโครงการ มีสัดส่วนลูกค้าคนจีน 25% ของยอดขายทั้งหมด น่าจะเกิดจากปีที่ผ่านมาประเทศจีนได้ออกมาตรการสกัดฟองสบู่อสังหาฯ ผู้ที่ซื้อบ้านตั้งแต่หลังที่ 2 ขึ้นไปจะต้องเสียภาษีสูงขึ้น จึงออกมาซื้ออสังหาฯนอกประเทศแทนเพื่ออยู่เอง และลงทุนหาผลตอบแทนที่ยังสามารถทำกำไรในเมืองไทย ถ้าปล่อยเช่าเฉลี่ยมีผลตอบแทน 6-7%" แหล่งข่าวกล่าว

ทุนจีนใช้ไทยเป็นฐานบุก AEC
นายพิพิธ เอนกนิธิ รองกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจจีน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารกสิกรไทยได้ขยายธุรกิจเข้าไปเปิดสาขาในประเทศจีน ซึ่งขณะนี้ได้เปิดดำเนินการแล้ว 2 สาขา คือ ที่เมืองเสิ่นเจิ้น และเฉิงตู โดยกสิกรไทยมียุทธศาสตร์ที่จะเป็นสะพานเชื่อมการลงทุนของจีนกับอาเซียน นอกจากเป้าหมายเพื่อการเข้าไปให้บริการสินเชื่อกับธุรกิจเอสเอ็มอีจีนแล้ว อีกด้านหนึ่งก็เป็นการต่อยอดในการเป็นที่ปรึกษากลุ่มนักธุรกิจจีน ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย 
โดยขณะนี้มีภาพชัดเจนว่ามีนักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุนในไทยรวมถึงมีเป้าหมายจะใช้ไทยเป็นฐานเพื่อที่จะขยายการค้าการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ผ่านมาเห็นแนวโน้มชัดเจนของนักลงทุนจีนที่เข้ามาไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ทางธนาคารก็ได้มีการตั้งทีมเพื่อดูแลกลุ่มลูกค้านักธุรกิจจีนที่เข้ามาเมืองไทยโดยเฉพาะด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น